วันอาทิตย์ที่ 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2552

ไปไหว้พระธาตุพนม

ช่วงวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ที่ผ่านมา ได้ถือโอกาสไปงานนมัสการพระธาตุพนม (1 กพ - 10 กพ. 52) ซึ่งเป็นพระธาตุประจำวันเกิดของคนเกิดวันอาทิตย์
  • ออกเดินทางจากมหาสารคามประมาณเที่ยงวัน ไปแวะทานข้าวเที่ยงที่ร้านเจ๊อื้อบ้านนาจารย์ จ.กาฬสินธุ์ ซึ่งห่างจากตัวเมืองไปเพียงสิบกว่ากิโลเมตร อาหารแนะนำคือ แจ่วฮ้อน พล่าเนื้อ รสชาดดี เนื้อนุ่มไม่เหนียว และความเผ็ดสั่งได้ จะเอาชนิดไม่มีรสเผ็ดเลยไปจนถึงน้ำหูน้ำตาไหลก็ได้
  • อิ่มจนพุงปลิ้นแล้วก็เดินทางต่อไป ช่วงระยะขึ้นเขาภูพานถนนหนทางเดี๋ยวนี้ดีมาก กว้างและไม่เป็นหลุมเป็นบ่อ ขับรถชมธรรมชาติที่ยังเหลืออยู่ แวะชมรอยเท้าไดโนเสาร์ รื่นรมย์กับธรรมชาติไปจนทะลุถึงช่วงถนนปิ้งงู(คดไปเลี้ยวกลับมาที่เดิมเป็นเลข 8 เหมือนจับงูมาใส่ไม้หีบเอาไปปิ้ง) สวยงามมาก แล้วผ่านหน้าพระตำหนักภูพานราชนิเวศน์ ลงเขาเข้าสู่ตัวเมืองสกลนคร แวะพักปล่อยเบา-หนักที่ปั๊มบางจาก ปั๊มนี้มีรีสอร์ทอยู่ด้านหลัง ร้านกาแฟและสเต็กค์เนื้อโคขุน จัดร้านสวยงาม ห้องน้ำสุดยอดได้มาตรฐานโลกตามแบบฉบับของบางจาก มีทั้งของคนพิการและคนปกติแยกกัน ที่สำคัญคือน้ำมันมีคุณภาพเต็มมาตรฐานทุกชนิดครับ ใครมาสกลไม่แวะปั๊มนี้แล้วท่านจะเสียใจ....
  • ถึงตัวเมืองนครพนมก็บ่ายห้าโมงเย็นกว่า ๆ เข้าพักที่โรงแรมวิวโขง ซึ่งตั้งอยู่บนตลิ่งแม่น้ำโขง(ไม่รู้เขาสร้างได้อย่างไร น่าจะเป็นที่สาธารณะมากกว่า) ตรงข้ามเมืองสะหวันนะเขตประเทศลาว ค่อนข้างเก่า ขาดการบำรุงรักษาที่ดี สภาพพอพักได้ตามราคาเจ็ดร้อยบาทพร้อมอาหารเช้า แต่น้ำไหลเบา ๆ (น้ำอาบนะครับไม่ใช่ฉี่) มีอ่างอาบน้ำ เด็ก ๆ ชอบมากพวกเขาใช้เป็นสระน้ำแทนเพราะโรงแรมไม่สระน้ำ ระวังยุงกัดนะครับโรงแรมนี้เลี้ยงยุงไว้ในห้องพัก อาหารเช้าใช้ได้แต่ขาดความหลากหลาย สัปรดออกจะเปรี้ยวไปนิด กาแฟชงเอง(ขอโทษขอกาแฟถุงรสชาดไม่น่ารับประทานเลยพับผ่า....) ได้พักห้องซีกตะวันออกมองเห็นทัศนียภาพเมืองสะหวันนะเขต และพระอาทิตย์ขึ้นตอนเช้า อันนี้ดีทีเดียว
  • หลังอาหารเช้าก็ไปไหว้พระธาตุประจำคนเกิดวันเสาร์ ซึ่งเลยที่พักไปนิดเดียว ได้นมัสการหลวงพี่คนมหาสารคาม ท่านเลยสงเคราะห์ให้พระให้หวย(ฮึฮึ ห่างไกลจริง ๆ หลวงพี่...) เสร็จเรื่องแล้วก็เดินทางต่อไปยังอำเภอธาตุพนม เข้านมัสการพระธาตุพนมโดยเวียนเทียนสามรอบ ขณะเวียนเทียนก็สวดมนต์บทพุทธคุณไปด้วย อิ่มเอิบบุญแล้วก็มุ่งหน้าเมืองมุกดาหาร ถนนช่วงนี้(นครพนม-ธาตุพนม)ดีมากสี่เลนวิ่งฉิวเลยล่ะ......
  • เกือบบ่ายโมงก็ไปถึงร้านอาหารนัดพบริมโขง ด้วยความหิวจัดมากัน 7 คนสั่งอาหารไปสิบอย่าง เลยต้องละเอียดกันจนพุงป่อง ถึงเกือบจะหมด นี่ยังไม่เกลี้ยงจานจริง ๆ นะ รสชาดพอใช้ได้ บรรยากาศดีทีเดียว ที่จอดรถสะดวก ฝรั่งไปกินกันเยอะอาหารจึงออกจะปนหวานบ้าง
  • หลังอาหารเที่ยงอันแสนจะหนัก(น้ำหนักเพิ่มเป็นโล) ก็ไปหาที่พักในตัวเมือง เรียบถนนไปก็เจอโรงแรมริเวอร์ซิตี้ เห็นรถทัวร์จอดอยู่คันหนึ่งเลยแวะเข้าไปดู อาคารทาสีใหม่ ห้องน้ำที่ลอบบี้ดูใช้ได้เลยตัดสินใจเข้าพัก คืนละ 750 บาทพร้อมอาหารเช้า พอเข้าไปถึงภายในห้องพักก็ต้องบอกว่า แพงชิบ....เก่าซะไม่มี ผ้าเช็ดตังนี่สีเหมือนขี้เถา(ไม่มีสีขาว มันทึม ๆ) ห้องน้ำไม่มีอ่างอาบน้ำ โถชักโครกขนาดสำหรับเด็ก(แสดงว่าเดิมต้องเป็นแบบนั่งยอง ๆ แน่ ๆ) เหม็นอับ(บ่อเกรอะนั้นคงเก่าเป็นยี่สิบสามสิบปีขึ้นไปแน่ ๆ จึงส่งกลิ่นขึ้นมาที่ชักโครก) แอร์ใหม่ ทีวีใหม่ พื้นไม้ ผ้าคลุมเตียงไม่มี ผ้าปูเตียงก็เก่าพอ ๆ กับผ้าเช็ดตัวนั่นแหละ(สงสัยคงใช้มาตั้งแต่เปิดโรงแรมแน่ ๆ เพราะเดิมชื่อโรงแรม...) อาหารเช้าบอกได้เลยว่าไม่เข้าระดับ(ใครมาคนนั้นสั่งข้าวต้มหรืออเมริกัน(บ้านนอก) เพราะมีแขกน้อย) โรงแรมนี้กำลังสร้างอาคารใหม่รูปครึ่งวงกลม รอให้สร้างเสร็จก่อนค่อนเข้าพักจะประทับใจรึเปล่าไม่ทราบ..........................






  • เมืองมุกดาหารมีที่เที่ยวหลายแหล่ง เช่น วนอุทยานแห่งชาติภูผาเทิบ ฯลฯ ส่วนในเมืองก็ต้องไปหอแก้วสูงสิบกว่าเมตร ส่องกล้องดูคนลาวอาบน้ำลอดช่องหน้าต่างได้(อุ้ย..เสียว) ภายในหอแก้วมีพิพิธพันธ์เมืองมุกดาหารด้วย ลงจากหอแก้วแล้วก็ต้องไปเดินซื้อของที่ตลาดอินโดจีนริมแม่น้ำโขง เดี๋ยวนี้สินค้าไม่เฟื่องเหมือนหลายปีที่ผ่านมา ตลาดอินโดจีนที่หนองคายดูจะมีสินค้าหลากหลายกว่ามากนะนะ

  • หลังอาหารเช้าวันอาทิตย์ที่ 1 กพ 52 ก็ออกเดินทางมุ่งหน้าสู่วนอุทยานแห่งชาติผาน้ำย้อย ที่อ.ภูทอก จ.ร้อยเอ็ด ไปได้หลายเส้นทาง เที่ยวนี้ใช้เส้นทางมุกดาหาร-นิคมคำสร้อย-หนองสูง-ผาน้ำย้อย ก่อนถึงผาน้ำย้อยก็แวะนมัสการหลวงปู่หล้าที่วัดภูจ้อก้อ ขึ้นบันไดที่ชันมากกว่าสองร้อยขั้นไปนมัสการอัฐิหลวงปู่ มองลงมาวิวสวยงามทีเดียว บันไดเหล็กขาขึ้นนี้ต้องใจกล้าหน่อยนะเพราะมันไม่นิ่ง แผ่นปูนขั้นบันไดบางแผ่นมันหลุดกรอบ ขาลงขอให้ทางเวียนลงเขาอีกด้านหนึ่งจะลงได้ง่ายกว่า แต่ไม่ตื่นเต้นเหมือนบันไดเหล็ก
  • ก่อนเที่ยงเล็กน้อยก็ถึงวนอุทยานแห่งชาติผาน้ำย้อย ขึ้นเขาไปนมัสพระบรมสารีริกธาตุที่มหาเจดีย์ชัยมงคล ซึ่งเป็นสถาปัตยกรรมที่วิจิตรตระการตามาก ออกแบบโดยกรมศิลปากร หากท่านอยากทดสอบสมรรถภาพร่างกายต้องไปนมัสการพระบรมสารีริกธาตุที่นี่....

ไม่มีความคิดเห็น: